การเต้นรำพื้นเมือง
การเต้นรำพื้นเมือง
หมายถึง การแสดงที่เกิดขึ้นตามท้องถิ่นและตามพื้นที่ต่าง ๆ
ของแต่ละประเทศที่นิยมเล่นกันแพร่หลายตลอดมาทุกยุคทุกสมัย เป็นกิจกรรมที่ไม่ยากนัก
มักจะเล่นเป็นหมู่ โดยที่ใคร ๆ ก็สามารถเข้าร่วมเล่นได้ โดยอาจมีการพัฒนา ดัดแปลงมาจากการละเล่นพื้นเมืองของท้องถิ่นนั้น
ๆ ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ที่บรรพบุรุษได้สั่งสม สร้างสรรค์ และสืบทอดไว้
ซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างกันตามสภาพภูมิประเทศ สังคม วัฒนธรรม แต่ละท้องถิ่น
การเต้นรำมีประวัติอันยาวนาน
ตั้งแต่สมัยยุคโบราณ มีการเต้นรำเพื่อบูชาเทพเจ้า ขอพรและขอความคุ้มครอง
เป็นกิจกรรมบันเทิงควบคู่กันไปกับการกระทำพิธีกรรมอันเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิต ซึ่งเรียกว่า การเต้นรำดั้งเดิม (Primitive
dance) เมื่อสังคมเจริญก้าวหน้าขึ้น
มนุษย์มีการรวมตัวกันตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนที่มีการพัฒนาทางด้านเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ การเต้นรำดั้งเดิมก็ได้รับการพัฒนาเป็น
“การเต้นรำพื้นเมือง” (Folk dance) และเริ่มเป็นกิจกรรมสังคมที่แยกจากเรื่องของพิธีกรรมทางศาสนาและลัทธิความเชื่อมา
เป็นกิจกรรมนันทนาการเพื่อความบันเทิง
และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในหมู่คณะเพื่อนฝูง ดังนั้น
การเต้นรำพื้นบ้านจึงได้รับความนิยมกว้างขวางขึ้นในสังคมเมือง
ต่อมามีการพัฒนาการเต้นรำพื้นบ้านเป็นการเต้นรำที่เรียกว่า ลีลาศ (Ballroom
dance) โดยมีกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ
ในปลายศตวรรษที่ 18 และแพร่หลายไปทั่วโลก จนถึงปัจจุบัน
ตัวอย่างการเต้นรำพื้นเมืองของชาติต่าง ๆ
1.
La Raspa จากเม็กซิโก
2.
Clog dance จากอังกฤษ
3.
เพลงนากิลา (Hava
Nagila) ประเทศอิสราเอล
เป็นเพลงพื้นเมืองภาษาฮีบรู
นิยมใช้ร้องและบรรเลงในงานแต่งงาน
และในเทศกาลบาร์มิตซาร์ของชาวยิวเพลงนี้นำทำนองมาจากเพลงเต้นรำพื้นเมือง
แถบแคว้นบูโควีนาทางตะวันออกของยูเครน ส่วนคำร้องแต่งโดย Abraham
Zevi Idelsohn เมื่อปี ค.ศ. 1918
ในการฉลองที่กองทัพอังกฤษชนะการรบที่ปาเลสไตน์ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
เพลงนี้ได้รับความนิยมในวงกว้างจากผลงานบันทึกเสียงของแฮรี เบลาฟอนเท ในปี ค.ศ.
1959 จนกลายเป็นเพลงประจำตัว ที่เบลาฟอนเทใช้ในการแสดงคอนเสิร์ตทุกครั้ง
4.
Scottish folk dance: Strathspey &
Tulloch
5.
Philippine Folk Dance Carinosa
เป็นระบำพื้นเมืองที่ได้อิทธิพลมาจากสเปน
คาริโนซา แปลว่า คู่รัก หรือที่รัก เวลาเต้นจะจับคู่หญิง – ชาย ผู้หญิงจะใส่ชุด Maria
Clara และถือพัด หรือผ้าเช็ดหน้า ร่ายรำแสดงท่าทางเขินอาย
บทเพลงมีเนื้อหาชมความงามของหญิงสาว
6.
Mazurka (มาซูร์กา) คือ
ประเภทของเพลงเต้นรำชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นเพลงเต้นรำพื้นบ้านของโปแลนด์
ซึ่งใช้การนับในอัตราสาม ( 3/4หรือ 3/8 ) และมักใช้จังหวะประจุ
โดยเน้นจังหวะที่ 2 หรือ 3 ซึ่งต่างจาก Waltz ที่เน้นจังหวะที่
1
ประวัติการเต้นรำพื้นเมืองของประเทศไทย
ความต้องการของมนุษย์ที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งรองจากปัจจัยสี่ คือ อาหาร
ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่มและยารักษาโรค คือ
ความต้องการเกี่ยวกับความสนุกสนานรื่นเริง
ดังเห็นได้ว่าชนแต่ละชาติแต่ละเผ่ามักจะใช้วิธีการแสดงออกเพื่อความสนุกสนานรื่นเริงสำหรับชนเผ่าของตนเองตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์มาแล้วทั้งสิ้น
วิธีการแสดงออกเพื่อความสนุกสนานที่สำคัญอย่างหนึ่งและมักจะปฏิบัติอยู่เสมอโดยทั่วไปนั้นคือ
การแสดงออกด้วยการเต้นรำหรือร้องรำทำเพลงนั้นเอง
การแสดงออกด้วยการร้องรำทำเพลงหรือเต้นรำเพื่อความสนุกสนานรื่นเริงอาจจะเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกหรืออารมณ์ที่เป็นไปด้วยความสนุกสนานรื่นเริงอย่างแท้จริง
การแสดงออกด้วยการร้องรำทำเพลงด้วยความสนุกสนานนี้แต่ละชนชาติแต่ละเผ่าจะมีวิธีการแสดงออกที่เป็นลักษณะเฉพาะ
ของตนเอง ทั้งนี้อาจจะมาจากอิทธิพลของสภาพแวดล้อม ชีวิตการเป็นอยู่
ขนบธรรมเนียมประเพณีนิยม ตลอดจนความเชื่อโชคลางต่างๆ
และอาจจะเป็นจากสาเหตุนี้เองที่ทำให้การร้องรำทำเพลงของแต่ละชนชาติซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณนั้นกลายมาเป็นศิลปะประจำชาติของแต่ละชาติไปดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้
สำหรับการเต้นรำพื้นเมืองของประเทศไทยมักเป็นการเต้นรำที่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนไทยในสมัยนั้นๆ เช่น การเซิ้งบั้งไฟ เพื่อขอฝนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การเต้นกำรำเคียว
ที่เป็นการแสดงที่สะท้อนให้เห็นถึงอาชีพของคนไทยในสมัยก่อนที่มักเกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม
การทำนาเกี่ยวข้าว
ตัวอย่างการเต้นรำพื้นเมืองของไทย
การแบ่งประเภทของการแสดงพื้นเมืองของไทย
โดยทั่วไปจะแบ่งตามส่วนภูมิภาค ดังนี้
1. การแสดงพื้นเมืองของภาคเหนือ
เป็นลักษณะศิลปะที่มีการผสมผสานกันระหว่างชนพื้นเมืองชาติต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นไทยล้านนา ไทยเงี้ยว ไทยใหญ่ เงี้ยว รวมถึงพวกพม่า
- ฟ้อนเล็บ
เป็นการฟ้อนแบบดั้งเดิมที่มีความสวยงาม โดยผู้ฟ้อนสวมเล็บสีทอง
- ฟ้อนเทียน
เป็นการฟ้อนแบบดั้งเดิมเช่นเดียวกับฟ้อนเล็บ แต่จะฟ้อนเวลากลางคืน
2.
การแสดงพื้นเมืองของภาคกลาง
เป็นการแสดงพื้นเมืองที่สื่อให้เห็นการประกอบอาชีพ
- รำกลองยาว
- เต้นกำรำเคียว
เป็นการแสดงพื้นเมืองของจังหวัดนครสวรรค์ นิยมเล่นกันตามท้องนา
ผู้แสดงทั้งชายและหญิงถือเคียวมือหนึ่งถือถือรวงข้าว
ร้องเกี้ยวพาราสีกันอย่างสนุกสนาน
3. การแสดงพื้นเมืองของอีสาน
- เซิ้งบั้งไฟ เป็นการฟ้อนในพิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
และในพิธีกรรมที่เกี่ยวกับการขอฝน
4. การแสดงพื้นเมืองของใต้
จังหวะที่เร่งเร้า
กระฉับกระเฉง ผิดจากภาคอื่นๆ และเน้นจังหวะมากกว่าท่วงทำนอง
โดยมีลักษณะที่เด่นชัดของเครื่องดนตรีประเภทตีให้จังหวะเป็นสำคัญ
- โนรา เป็นการแสดงแบบโบราณที่มีมาช้านาน
นิยมแสดงเพื่อความเป็นสิริมงคล
- ตารีกีปัส เป็นการรำพัด
ซึ่งเกิดจากการผสมผสานกับการแสดงของมาเลเซียในเพลงชื่อบัวกาน่า
วงดนตรีพื้นบ้านผสมสากล แสดงได้สองแบบคือชาย-หญิง และหญิงล้วน
ที่มา
https://sites.google.com/site/edwincasiyas/Article
http://mybllock.blogspot.com/2012/11/folk-dance.html
http://dragon245.blogspot.com/2012/01/folk-dance.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น